“จุรินทร์” รวมพลัง ปชป.ใต้ ประกาศยุทธศาสตร์ “ประชาธิปัตย์ Comeback” ขาย “ผลงานคู่อุดมการณ์” เปิดตัว 9 ว่าที่ ส.ส.สงขลาครบทีม

เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2565 เวลา 10.45 น. ที่จังหวัดสงขลา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ขึ้นกล่าวในการประชุม ส.ส.ภาคใต้ ตัวแทนสาขาพรรคภาคใต้ เพื่อกำหนดกลยุทธ์และเป้าหมายในการเลือกตั้ง ผนึกกำลังเป็นหนึ่งเดียวฟื้นประชาธิปัตย์ ที่โรงแรมบุรีศรีภู อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยกล่าวว่า

วันนี้ถือว่าเป็นวันที่สำคัญที่สุดวันหนึ่งของพรรคประชาธิปัตย์ภาคใต้บ้านเราเพราะเป็นวันที่เรามารวมพลังกัน เพื่อคืน ส.ส.ภาคใต้ 14 จังหวัดให้กลับคืนมา พร้อมกับเชื่อว่าด้วยพลังของพวกเราทุกคนประชาธิปัตย์ทำได้ โดยขอให้นำสิ่งที่ตนได้สื่อสารในวันนี้ส่งต่อไปยังพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน โดยเฉพาะคนปักษ์ใต้บ้านเรา ด้วยการทำหน้าที่เป็นลำโพงให้กับพรรคประชาธิปัตย์ แต่การเป็นลำโพงที่ประชาชนได้ยินเสียงนั้น ต้องเป็นลำโพงที่ต้องเสียบปลั๊กด้วย
ซึ่งจากการทำหน้าที่เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์มา 3 ปี ในภาพรวมของพรรคได้ร่วมกับกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกทุกคน ทำให้พรรคสามารถเดินหน้าไปได้ไกลพอสมควร ถ้าเป็นเครื่องบินก็เทคออฟแล้วและขึ้นไปได้ แม้ตกหลุมอากาศบ้าง แต่เดี๋ยวมันจะขึ้นไปได้ต่อ แล้วจะยานต่อไปข้างหน้าไปสู่ความสำเร็จต่อไปในอนาคต
ประชาธิปัตย์ยุคนี้ เป็นยุคของการทำงาน ที่เน้นเรื่องทำ จึงเป็นที่มาของ ประชาธิปัตย์ อุดมการณ์ทันสมัย ทำได้ไวทำได้จริง จึงเกิดขึ้น ซึ่งจากนี้ไปประชาธิปัตย์ต้องขาย 2 เรื่อง
1. ขายอุดมการณ์ 2. ขายผลงาน เราเป็นพรรคการเมืองพรรคหนึ่งที่พูดคำว่า “อุดมการณ์” ได้อย่างเต็มปาก เพราะ 1. ประชาธิปัตย์ยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข 2. ประชาธิปัตย์มีอุดมการณ์ในการทำหน้าที่เพื่อประชาชน ไม่ใช่อุดมการณ์เพื่อทำหน้าที่ให้ใครคนใดคนหนึ่งขึ้นมามีอำนาจ ที่เมื่อทำสำเร็จหรือล้มเหลวแล้วก็ปิดพรรค 3. อุดมการณ์แห่งความซื่อสัตย์สุจริต
ด้วย 3 อุดมการณ์นี้ จึงทำให้เรากลายเป็นสถาบันทางการเมือง และไม่เพียงเท่านั้น เรายังเป็นสถาบันทางการเมืองที่ยั่งยืนที่สุดในประเทศไทย และความเป็นสถาบันทางการเมืองนี้จึงเป็นจุดขายสำคัญของเราที่เราต้องเก็บไว้ และต้องสื่อสารให้พี่น้องประชาชนได้เห็น
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวอีกว่า จากการเลือกตั้งซ่อมที่ชุมพร และสงขลา ได้พิสูจน์ว่าจิตวิญญาณของความเป็นสถาบันการเมืองของประชาธิปัตย์นั้นกลับมาแล้ว ไม่อย่างนั้นเราไม่ชนะ ประชาธิปัตย์ชนะเพราะคนปักษ์ใต้เห็นแล้วว่าระหว่างพรรคการเมืองเฉพาะกิจกับพรรคการเมืองที่เป็นสถาบันทางการเมือง สุดท้ายประชาชนเลือกอะไร จุดนี้จึงเป็นจุดขายสำคัญที่ประชาธิปัตย์ต้องปลุกจิตวิญญาณนี้กลับคืนมา
นอกจากนี้ ยังได้กล่าวถึงผลงานของพรรคประชาธิปัตย์ที่มีมากมายในยุคนี้ ซึ่งตนนั้นลงมือทำและทำไม่หยุด โดยวานนี้ ก็ได้ไปช่วยรณรงค์หาเสียงให้กับผู้สมัคร ส.ส. ที่โพธาราม ซึ่งมีเสียงตอบรับอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง เดินไปที่ไหนมีแต่คนมาให้กำลังใจมามอบดอกไม้ มาถ่ายรูปด้วย พร้อมกับบอกว่า
เดี๋ยวนี้เขาเลือกประชาธิปัตย์ เลือก ส.จ.เส็ง เราจึงมั่นใจว่าเราจะมีโอกาสมากในการที่จะปักธงที่เขต 3 ราชบุรี สจ.เส็ง ชัยทิพย์ กมลพันธ์ทิพย์ สำหรับการเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก. นั้น เสียดายที่กฎหมายได้บังคับไม่ให้หัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค ผู้มีตำแหน่งทางการเมืองของพรรคลงไปช่วยหาเสียง
และเห็นว่าเป็นกฎหมายที่พิสดาร เพราะเปิดโอกาสให้พรรคการเมืองส่งผู้สมัครในนามพรรคได้ แต่พรรคกลับไปช่วยหาเสียงไม่ได้ ทำให้กลายเป็นจุดที่ทำให้ตนเหมือนถูกมัดมือมัดเท้า เมื่อส่งผู้สมัครแล้วก็ต้องปล่อยไป ไม่มีโอกาสไปเกี่ยวข้องได้ ไม่ว่าจะทั้งทางตรงหรือทางอ้อม ซึ่งเราต้องแก้กฎหมายเรื่องนี้
ทั้งนี้ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้กล่าวถึงผลงานที่สำคัญ หลายเรื่องที่ได้ทำและเกิดเป็นรูปธรรมที่เห็นชัด ตั้งแต่ นโยบายประกันรายได้ พืช 5 ชนิด ตั้งแต่ ยางพารา ปาล์ม มันสำปะหลัง ข้าว ข้าวโพด ซึ่งเป็นนโยบายที่ประชาธิปัตย์ ใช้เป็น 1 ใน 3 เงื่อนไขของการร่วมรัฐบาล
นอกจากนี้การส่งออกของไทย ที่ถือเป็นพระเอกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ ก็เป็นฝีมือของพรรคประชาธิปัตย์ โดยตั้งแต่เข้าร่วมรัฐบาลปีที่แล้ว ทั้งปีทำรายได้จากการส่งออกถึง 8.5 ล้านล้านบาท และปีนี้ก็ได้ตั้งเป้าไว้ 9 ล้านล้านบาท ซึ่งเพียง 3 เดือนแรก ก็สามารถทำได้ถึง 2.4 ล้านล้านบาทแล้ว สำหรับการค้าชายแดน ที่ปักษ์ใต้บ้านเรามี 9 ด่าน เฉพาะ 3 เดือนแรก สามารถทำรายได้จากการค้าชายแดนไปแล้ว 1.5 แสนล้านบาท ช่วยให้เศรษฐกิจปักษ์ใต้บ้านเราสามารถขับเคลื่อนไปได้
สำหรับการแก้ปัญหาหนี้สินให้กับเกษตรกรนั้น แม้จะเป็นเรื่องเก่าแต่ต้องนำมาเล่าใหม่ ประชาธิปัตย์แก้ปัญหาด้วยการป้องกันไม่ให้ที่ดินทำกินของเกษตรกรตกไปอยู่ในมือของนายทุน ซึ่งนโยบายนี้เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยรัฐบาลชวน 2 ปี 2542 ที่ได้จัดตั้งกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรขึ้นเพื่อซื้อหนี้จากเกษตรกรที่เป็นหนี้สถาบันการเงิน ด้วยการให้เกษตรกรมาเป็นสมาชิก แล้วนำเงินไปใช้หนี้ให้สถาบันการเงิน แล้วให้สมาชิกผ่อนกับกองทุนฯ ด้วยดอกเบี้ย 0% ทำให้สามารถช่วยรักษาที่ดินทำกินให้คนจนได้
ซึ่งตอนนี้มีเครือข่ายกองทุนฟื้นฟูในทุกจังหวัด ล่าสุดได้ของบกลางไปแล้ว 2 พันล้านเพื่อนำมาซื้อหนี้ 1,500 ล้าน และจะมีโครงการฟื้นฟูชีวิตเกษตรกร ซึ่งจะเป็นการช่วยเหลือแก้ปัญหาหนี้สินแบบครบวงจร ปลดหนี้เสร็จมีโครงการให้เดินหน้าสร้างอนาคตให้กับชีวิตได้
นอกจากนี้ ประชาธิปัตย์ ยังไม่ทิ้งกลุ่มซาเล้งเพื่อนยาก ที่ช่วยดูแลให้เกิดการรับซื้อเศษกระดาษไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 2 บาท วันนี้ถือว่ากลุ่มซาเล้งสามารถลืมตาอ้าปากได้ ประชาธิปัตย์ที่เราต้องดูแลช่วยเหลือต่อไป และยังมีโครงการบ้านมั่นคง และบ้านพอเพียงเพื่อการดูแลให้คนจนได้มีที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นนโยบายนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2542 ในรัฐบาลชวนหลีกภัย 2 และตนเป็นรมต. ประจำสำนักนายก ที่ตั้งหน่วยงาน พอช. และมีแผนงานชัดเจนมากว่า 20-30 ปี
สำหรับ อสม. นั้น ถือเป็นจิตวิญญาณของประชาธิปัตย์ เป็นสิ่งที่เราร่วมกันสร้างมา จนถึงวันนี้ อสม.เติบโต ซึ่งสมัยที่ตนเป็น รมต. สาธารณสุข ในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ปี 52-53 ก็ได้ยกระดับสถานีอนามัยขึ้นเป็น รพ.ส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล (รพ.สต.) อีกด้วย พร้อมกับให้ อสม. เข้ามาช่วยทำงาน ที่สำคัญคือประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองพรรคแรกที่ให้เบี้ย อสม. 600 บาทต่อเดือน มาถึงวันนี้เพิ่มเป็น 1,000 บาท
และช่วง 3-4 เดือนนี้ เนื่องจากเราเหนื่อยจากปัญหาโควิด จึงเติมให้เป็น 1,500 บาท จากการที่เรามี รมช. สาธารณสุข จึงได้จัดให้มีกองทุนฌาปนกิจสงเคราะห์ อสม. ด้วย
“ผมเชื่อว่าด้วยพลังของพวกเราทุกคนด้วยความสามัคคีของพวกเราทุกคนความสำเร็จที่จะเกิดขึ้นในปักษ์ใต้บ้านเรา สิ่งที่รองหัวหน้าพรรค เดชอิสม์ กล่าวนั้นเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ และเรามั่นใจว่าประชาธิปัตย์ทำได้ หลังเลือกตั้งซ่อมชุมพร สงขลา ทำให้ผมมั่นใจ และเชื่อว่าทำให้เราพรรคประชาธิปัตย์ทุกคนมีกำลังใจ และทำให้เรามองเห็นความสำเร็จอยู่ข้างหน้ารำไรว่า
อีกไม่นานประชาธิปัตย์ภาคใต้บ้านเราจะคัมแบ็ค เหมือนที่เราเคยสำเร็จในอดีต อยากให้กำลังใจจริงอยากให้กำลังใจพวกเราทุกคนขอบคุณทุกกำลังใจที่ให้กับผม ขอบคุณทุกคำพูดจากใจที่บอกว่าหัวหน้าสู้ ๆ มันทำให้ผม มีแรงมีพลังที่จะทำงานจับมือร่วมกับพวกเราทุกคนเพื่อผลักดันเดินไปข้างหน้าร่วมกับทีมงานพวกเราทุกคน ขอเพียงให้พวกเราอย่าท้อแท้ อย่าสิ้นหวัง ในวิกฤตทุกวิกฤตมีโอกาสเสมอ
ครั้งที่แล้วเราอาจจะเหลือ 23 เที่ยวหน้า เราจะได้ 24 ไม่ได้เหรอ เราจะได้ 25 ไม่ได้เหรอ เราได้ 26 ไม่ได้เหรอเราได้ 30 ได้ไหม เรามี 40 ได้ไหม ผมเชื่อประชาธิปัตย์ทำได้ ประชาธิปัตย์คัมแบ็คแน่นอน”



Written By
More from pp
ทหารพราน 47 ปฏิบัติภารกิจดูแลความสงบพื้นที่ชายแดนใต้
หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 47 จัดกำลังพล ชุดปฏิบัติการจรยุทธ์ฯ (ชุดปฏิบัติการกลางวัน) ออกลาดตระเวนจรยุทธ์พิสูจน์ทราบ ในพื้นที่รับผิดชอบเขตป่าภูเขา และชายป่าหมู่บ้าน Support site
Read More
0 replies on ““จุรินทร์” รวมพลัง ปชป.ใต้ ประกาศยุทธศาสตร์ “ประชาธิปัตย์ Comeback” ขาย “ผลงานคู่อุดมการณ์” เปิดตัว 9 ว่าที่ ส.ส.สงขลาครบทีม”