ทุกข์เพราะโง่เอง

จากหนังสือ “ทุกข์เมื่อไหร่..โง่เมื่อนั้น”

โดย พระอาจารย์ครรชิต สุทฺธิจิตฺโต

ถ้าอารมณ์ครอบงำจิต แสดงว่าเรากำลังเป็นทาสของอารมณ์ เป็นทาสของเรื่องนั้นเรื่องนี้ อารมณ์ก็มาครอบงำจิตได้ เพราะอะไร เพราะเราไม่มีปัญญา “เราทุกข์เรื่องไหน แสดงว่าเราไม่มีปัญญาในเรื่องนั้น มันจึงทุกข์ ถ้าปัญญาส่องเข้าไปถึงเนี่ย มันจะไม่ทุกข์ มันทุกข์ไม่ได้เลย” ตัวปัญญาจะจับปั๊บ ยึดเรื่องอะไร จับปั๊บเข้ามา มันเห็น ยึดเรื่องลูกเหรอ เรื่องสามีเหรอ มันก็เห็น ก็นั่นมันของตาย ของที่อยู่ชั่วคราว ถ้ามีปัญญา มันจะเห็นนะ ของมาตามกรรม ไปตามกรรม ไปตามเหตุตามปัจจัยเฉยๆ ยังไงมันต้องพลัดพรากจากกันอยู่แล้ว ถ้าเราตายลงไป เขาก็อยู่ของเขา



ทีแรกก็คาดหวังว่าสิ่งต่างๆ จะทำให้เรามีความสุข แต่สิ่งต่างๆ น่ะ มันก็มีความทุกข์ มีความเปลี่ยนแปลงอยู่ในตัวเองอยู่แล้ว พอเกิดกิเลสตัณหาอุปาทาน เราก็ยึดเยอะแยะไปหมด เกิดความรักความห่วงใย ที่จริง เดี๋ยวมันก็เบื่อหน่ายกันได้ ชิงชังกันได้ เพราะว่ามันเปลี่ยนแปลง เราโง่เอง นั่น ที่มันทุกข์ก็เพราะโง่ คนเจ็บไข้ได้ป่วยดันไปทุกข์ เกิดมาแล้วมันก็ต้องป่วย เพราะพอเกิดก็เอาความเจ็บป่วยไข้ตามมาด้วย มันต้องแก่ และมันก็ต้องตาย แล้วจะไปทุกข์ทำไม มันเป็นความจริง ถ้าทุกข์โง่ เห็นไหม มันมีแต่ความโง่ ที่เราไม่รู้ ไม่มีปัญญา ก็เราะเราไม่ได้ฝึกจิต ไม่ปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้า



พระพุทธเจ้าท่านไม่ทุกข์ เรื่องอะไรเข้ามาเนี่ย จิตมันมีปัญญา มันไม่ทุกข์เลย คือรู้ว่าทุกข์ไม่ได้ ถ้าคิดให้ตัวเองเป็นทุกข์ ก็โง่ทันทีเลย มันโง่ไม่ได้ เพราะเข้าใจโลก เข้าใจชีวิตหมดแล้ว เข้าใจเรื่องของตัวเองอย่างถ่องแท้ แจ่มแจ้ง เข้าใจเรื่องตัวเอง เข้าใจโลก เข้าใจตัวเอง เข้าใจคนอื่น เข้าใจว่า แท้จริงมันไม่มีเรา

ดูสิ เวลาน้อมพิจารณาเข้ามา มันเห็นเลยว่าไม่มี “เรา” นะ พอไม่มีเราแล้ว ก็ไม่ต้องไปทุกข์กับอะไร ถ้าพูดถึงสภาวธรรม พอไม่มีเรา ปัญญาเนี่ยขยายออกไปได้ ตัวจิตสามารถขยายออกไป มันเข้าใจโลก เข้าใจตัวเอง เข้าใจธรรมชาติ เข้าใจสิ่งแวดล้อม ความกลัวก็ไม่มี ความกังวลก็ไม่มี ความหวั่นไหวอะไรก็ไม่มี มันไม่มีอะไรที่จะไปหวั่นไหว นี่ แสดงว่าทุกคนสามารถสอน สามารถฝึกจิตตัวเองได้ ถามตัวเอง จะเอาหรือไม่เอาล่ะ ถ้าเอา ก็ต้องหาวิธีสิ



เกิดมาแล้วทุกข์ไหม แล้วอยากออกจากทุกข์ไหม เนี่ย มันก็ต้องถามให้ตัวเองแน่ใจ ถ้าอยากออก แล้วทางออกคืออะไร ทางออกจากทุกข์ก็คือโพธิปักขิยธรรม ๓๗ ประการ มีทางเดียว และมีในศาสนาพุทธเท่านั้น เริ่มต้นด้วยอะไร สติปัฏฐาน ๔ สัมมัปปธาน ๔ อิทธิบาท ๔ อินทรีย์ ๕ พละ ๕ โพชฌมค์ ๗ อริยมารค มีองค์ ๘ กลุ่มเดียวกัน ที่พูดสติ สติ เพราะสติเป็นต้นทางของผู้ปฏิบัติ มันง่าย มรรค ๘ นี่ กว่าที่จิตจะมีกำลังรวมตัว มีอริยมรรคเข้ามาอยู่ในจิตได้ ต้องใช้เวลาฝึกฝนอบรมเสียก่อน แต่สุดท้าย มันก็คือ อริยมรรคนั่นเองนะ



พูดถึงอริยมรรค เราจะฝึกไปทำไม ต้องฝึก ฝึกเพื่อให้เรามีสติปัญญา ให้มองเห็นความจริง มรรคทำให้เราเห็นความจริง พอเห็นความจริง มันก็ปล่อยวาง ปล่อยวางแล้วก็แจ้งชัดในอริยสัจ ๔ คือความจริงว่า ไม่มีเรา ไม่มีตัว ไม่มีตน มีแต่ของเกิดของดับเท่านั้น เป็นเพราะความหลง ที่สร้างความเป็นเราขึ้นมา ใครที่เห็นแจ้งชัดแล้ว มันก็วาง วางได้แต่ละชั้น ก็สมมติเรียกว่า “มรรค”



การปฏิบัติต้องมีวินัย เพื่อพัฒนาให้จิตเรามีคุณภาพ เราจะได้สู้กับข้าศึก ศัตรูที่จะมาย่ำยีจิตของเรา ไม่เชื่อลองได้เลย เอาแค่ตอนที่เรามาปฏิบัติกันนี่ล่ะ คือมันก็ดีอย่าง พอทำข้อตกลงกันเอาไว้แล้ว มันก็ทำให้ต่างคนต่างปฏิบัติ ใครไม่พูดไม่จาก็ถือว่าคนนั้นกำลังตั้งใจปฏิบัติ สำรวมระวัง ถ้ามีความจำเป็นก็พูดกัน พูดเท่าที่จำเป็น พูดแต่น้อย โดยเฉพาะอะไรที่ไม่จำเป็น พยายามไม่ให้มันรุงรัง



พวกโทรศัพท์อะไร ก็เอาเท่าที่จำเป็นจริงๆ อย่าให้มันเอาเวลาเราไป เราเสียเวลากับสิ่งเหล่านี้มาก ทั้แช็ต ไลน์ เฟซบุ๊ก สิ่งไร้สาระมันดึงดูดเวลาเราไปมาก แทนที่เราจะมีเวลามาปฏิบัติจิต ให้ปัญหาในชีวิตน้อยลง ให้ควาทุกข์ภายในจิตลดลง ให้หมดทุกข์ เราก็บอกว่าไม่ค่อยมีเวลา แทนที่เราจะมาเดินตามทางของพระพุทธเจ้า ให้มันใกล้จุดหมายปลายทางเข้าไป เราก็ไม่เดินกลายเป็นคนประมาท กลายเป็นคนหลงทาง หลงทางแล้วก็เดินไปตามอำนาจ ความหลงแบบไม่รู้ตัวด้วย

พากันเวียนเกิดเวียนตาย แล้วก็ไม่ได้อะไร

เกิดมา แล้วก็สร้างกรรม แล้วก็รับผลของกรรม

สร้างกรรม แล้วก็เสวยผลของกรรม

วนเวียนอยู่อย่างนี้

แล้วมันได้อะไร

คนที่รู้จริงๆ ก็คือคนที่หลุดพ้นแล้ว ไม่มีทุกข์แล้ว เขามองเห็นความว่างเปล่าของชีวิตว่าไม่มีอะไร ถ้ายังมีชีวิตอยู่ ก็ทำในสิ่งที่มีคุณค่า ให้สมกับที่เกิดมาเป็นมนุษย์ คุณค่าของชีวิตที่ได้เกิดมาเนี่ย มันมีค่า และส่ิงที่ทำให้ชีวิตมีค่า ก็คือพระธรรม คำสอนของพระพุทธเจ้า

//////////////////////

โปรดติดตามตอนต่อไป “เราเกิดมาเพื่ออะไร”



Written By
More from pp
แพทย์แนะเช็กด่วน!!! 7 สัญญาณเตือนมะเร็งคุกคาม
การหมั่นสังเกตสัญญาณเตือน “มะเร็ง” เป็นเรื่องที่ละเลยไม่ได้ ด้วยปัจจุบันมะเร็งยังเป็นอันดับหนึ่งของโรคร้าย ที่มีอัตราการเสียชีวิตเพิ่มสูงมากขึ้นทุกปี
Read More
0 replies on “ทุกข์เพราะโง่เอง”