“พ่อทำไว้ให้โดยลูกไม่เห็น”

พ้นเขตสงกรานต์ จังหวัดโน้น-นี้ เริ่มขยุกขยิก จะเปิดเมือง
นัยว่า ชาวบ้าน-ร้านค้า-สถานบริการ เรียกร้อง!ก็เข้าใจ ต่อให้เป็นกรงทองฝังเพชร คนอยากเป็นนกบินเย้ยธนู มากกว่าเป็นนกเจ็บเฝ้าคอน
ยิ่งเห็นตัวเลขป่วย ยืน ๒ หลัก สัปดาห์เต็ม ก็ยิ่งชะล่าใจ

อยาก “เสี่ยงเป็นศพ”……..
มากกว่า “กลัวโลงศพ” เป็นอารมณ์นั้นไปแล้ว?

ก็อยากจะบอก…..
“ทนกันอีกนี๊ดดดเถอะ แม่จำเนียร”!

อย่ารีบเสี่ยงกันนัก โลงศพเป็นของหายากตอนนี้ ทางละตินอเมริกา ตายจนไม่มีไม้ต่อโลง ต้องใช้กระดาษแทนแล้ว

ดู จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ เป็นตัวอย่าง “ดับคึก” ก็ได้
ดีใจ โควิดหายแล้ว กำราบ-ปราบอยู่หมัดแล้ว ก็เปิดเมือง เข้าสู่โหมดชีวิตใหม่

พอ “ลดการ์ด-เปิดเมือง” เท่านั้นแหละ โควิดที่แกล้งสลบโดดผึง ซัดเปรี้ยง ครางกันอ๋อยๆ

……..มันมารอบ ๒ แล้ววุ้ย!
สิงคโปร์ ก็ลดการ์ดแบบเดียวกัน แล้วตอนนี้เป็นไง?

วานซืน โควิดมันตลบหลัง วันเดียวติดเชื้อ ๒-๓ ร้อย ชิงอันดับ “คนป่วยอาเซียน” นำหน้าไทยไปเลย

เมื่อวาน (๑๕ เมย.) นึกว่าจะอ่อนข้อให้ไทย ที่ไหนได้ ขณะที่ไทย ตัวเลขอยู่ที่ ๓๐

สิงคโปร์ บอก…ข้าไม่รอละนะ พรวด..พรวด วันเดียวไปที่ ๓๓๔ !
ตอนนี้ “ทั้งโลก” ป่วยกว่า ๒ ล้าน ตายกว่าแสน “สหรัฐฯ-ยุโรป” กวาดอันดับป่วย ๑-๑๐ ไปครองเกลี้ยง

ถามว่า แล้วจะแก้กันยังไง?
คำตอบ ดูท่าทีค่ายตะวันตก “ปล่อยตามกรรม” เรียกว่า อยากตายก็ให้มันตายซะให้เข็ด

ถึงที่สุด ติดโควิดเหมือนติดหวัด!
ดูทั้งโลก ๒๐๐ กว่าประเทศ มันกว้าง

มาดูเฉพาะอาเซียนของเราดีกว่า ใน ๑๐ ประเทศ ว่าประเทศไหน อยู่ในอันดับไหนกันบ้าง?

เอาแค่ระดับ “ท็อปไฟว์” ก็พอกระมัง
ประชันศิลปะการสู้ศึกโควิดแต่ละมาตรการของแต่ละรัฐบาลเป็นอันดับไปเรื่อยๆ โดยวัดจากยอดคนป่วย
ประเทศไหน “ป่วยน้อยสุด” ครองถ้วยทองคำฝังเพชร “โควิด-๑๙” ไปเลย!

ณ ๑๕ เมษายน ๒๕๖๓ ผู้ป่วยโควิดอันดับ ๑-๕ ของอาเซียน เป็นดังนี้

อันดับ ๑ ฟิลิปปินส์ ป่วย ๒๙๑ สะสม ๕,๒๒๓

อันดับ ๒ มาเลย์ ป่วย ๑๗๐ สะสม ๔,๙๘๗

อันดับ ๓ อินโดฯ ป่วย ๒๘๒ สะสม ๔,๘๓๙

อันดับ ๔ สิงคโปร์ ป่วย ๓๓๔ สะสม ๓,๒๕๒

อันดับ ๕ ไทย ป่วย ๓๐ สะสม ๒,๖๔๓
ไทยเราบ๊วย!

แต่ถ้าชะล่าใจ “การ์ดตก” หลังสงกรานต์
ก็มีความเป็นไปได้ “จากบ๊วย” ไทยจะป่วยและตายพุ่งแซงหน้าสิงคโปร์ ขึ้นไปทาบอินโดฯ-มาเลย์
กระทั่งฟิลิปปินส์ “อันดับ ๑” ก็เถอะ……

ฉะนั้น อย่าเร่าร้อนผ่อนคลายมาตรการกันไวๆ โดยยกเศรษฐกิจจะพังอ้างบ้าง จะอดตายกันหมดแล้วอ้างบ้าง เพื่อกลับไปตามใจชอบเหมือนเดิม

เมื่อไม่ต้องการแซงอันดับสิงคโปร์ ต้องอึดเข้าไว้ เชื่อฟังมาตรการรัฐบาลและคำแนะนำหมออีกซักระยะ

จนถึง วันไหน…..
หมอทวีศิลป์ “ยิ้มตาหยี” ขึ้นโพเดียม ประกาศป่วย “เลขตัวเดียว” วันนั้น ค่อยทะลายกำแพง ออกไปยืดเส้น-ยืดสาย “เย้ยโควิด” ติดแฮชแท็กไปเลย

พูดถึง “โฆษก” ศบค………
“มีแฟนๆ ถาม ใครกันนะ หนุ่มใหญ่ สมาร์ท กทม.หล่อคูลๆ ที่แถลงข่าวภาคภาษาอังกฤษต่อจากหมอทวีศิลป์นั่นน่ะ ถึงนม-เนยดีจริงๆ?
ก็บอกให้ทราบตรงนี้….

“คุณณัฐภาณุ นพคุณ” รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ
หายสงสัยกันแล้วนะ

พูดถึงต่างประเทศ วานซืน (๑๔ เมย.) มีการประชุมสุดยอดอาเซียน สมัยพิเศษ ว่าด้วยโควิด เป็นการประชุมผ่านระบบทางไกล

ที่น่าสนใจ คือที่นายกฯ เสนอให้ตั้ง “กองทุนอาเซียนเพื่อรับมือกับโควิด-๑๙”
เพื่อจัดหาอุปกรณ์, เครื่องมือแพทย์ ให้ประเทศสมาชิกอาเซียน
สนับสนุนการวิจัยและพัฒนายา, วัคซีน เป็นการเริ่มต้นความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม ซึ่งที่ประชุมสนับสนุนข้อเสนอนี้

นอกจากนั้น………
นายกฯ แสดงความพร้อมของไทย จะมอบ “ชุดตรวจโควิด” ชนิด RT-PCR ที่ผลิตได้เอง ให้กับทุกประเทศสมาชิกอาเซียน ประเทศละ ๑๐,๐๐๐ ชุดด้วย

ตรงนี้ ตอนมีข่าวออกไป บ้างว่าเฟกนิวส์ บ้างว่าไม่เฟก ซึ่งจริงๆ แล้ว เป็นข่าวจริง!

ช่วงเถียง “จริง-ไม่จริง” พวกพยาธิไชส้นเกือก ลงมือทำงาน ระดมเมนท์ทันที…….

“ประเทศตัวเองยังไม่พอใช้ รัฐบาลหน้าใหญ่ เที่ยวเอาไปแจกเขาอีก” ประมาณนั้น

ก็บอกให้ทราบตรงนี้ไว้เลย
“ชุดตรวจโควิด” ชนิด RT-PCR ที่นายกฯ จะแบ่งปันให้เพื่อนประเทศอาเซียน นั้น

ไทยผลิตได้เอง โดยบริษัท “สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด” (Siam Bioscience) โรงงานอยู่ที่ บางใหญ่ นนทบุรี

เป็นการร่วมมือของ “กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม” โดย “มหาวิทยาลัยมหิดล” ร่วมกับ “กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์” และ “บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด”

ได้ร่วมกันวิจัยและพัฒนาชุดตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR เสร็จสมบูรณ์ ถึงขั้นตอน ผลิตสู่ตลาดแล้ว

เป็นวิธีการตรวจมาตรฐาน “องค์การอนามัยโลก-WHO” สำหรับหาเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ ในสภาวการณ์ปัจจุบัน

คงเห็นข่าวกันแล้ว เมื่อต้นเมษา……..
“สยามไบโอไซเอนซ์” นำชุดตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน ๒๐,๐๐๐ ชุดแรก ไปมอบรัฐบาล
เพื่อนำไปแจกให้ใช้ตามโรงพยาบาลทั่วประเทศ และตามห้องปฏิบัติการที่มีเครื่องตรวจกว่าร้อยแห่ง

ขณะเดียวกัน ก็เดินหน้าผลิต เพื่อให้ได้ ๑๐๐,๐๐๐ ชุด พร้อมทยอยส่งมอบให้ครบภายในเมษา.นี้
และจะผลิตให้ครบ ๑,๐๐๐,๐๐๐ ชุด ภายใน ๖ เดือน นับจากเมษา.!

อาเซียน ๑๐ ประเทศ ติมอร์ เลสเต อีก ๑ ไทยเราแบ่งปันให้ประเทศละ ๑๐,๐๐๐ ชุด ก็แค่ ๑๑๐,๐๐๐ ชุด เท่านั้น

จะซึ้งกันก็ตอนนี้แหละ มีอะไรช่วยกันได้ แบ่งปันกันได้ ก็ทำเลย
ความเห็นแก่ตัว โลภ มักได้ เป็นเครื่องหมายคนเลว เอื้อเฟื้อ แบ่งปัน ไม่ยึดประโยชน์เฉพาะตัว เป็นเครื่องหมายคนดี

นายกฯ ทำเช่นนั้น ประเสริฐชาติแล้ว
ต้องเข้าใจกันว่า ในความเป็นสังคมโลก ถ้าประเทศอื่นๆ ไม่รอด ถึงประเทศตัวเอง “ประเทศเดียว” รอด
มันก็ไม่รอดและอยู่ไม่ได้!

ฉะนั้น ช่วยได้ ต้องช่วยกัน เพื่ออยู่ร่วม แบบนั้น “โลกทั้งโลก” จึงจะรอด

ทีนี้ มาทำความรู้จักกันว่า บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด คืออะไร ทำอะไร

จู่ๆ ถึงปรากฏเป็นพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยชีวิตคนไทย และเพื่อนอาเซียนได้ขนาดนี้?

ชัดๆ ตรงๆ สั้นๆ
สยามไบโอฯ ก่อตั้ง พ.ศ.๒๕๕๒ เกิดจาก………
พระราชปณิธานใน “พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร” รัชกาล ที่ ๙

ทรงทำไว้เพื่ออะไร?
เพื่อชีวิตและสุขภาพที่ดีของ “ลูกของพ่อทุกคน” ในความเป็นประเทศไทย

แล้วสยามไบโอฯ ทำอะไร?
“คิดค้น-พัฒนา-วิจัย” ผลิตวัตถุดิบยา, ผลิตยา, บรรจุยา และจัดจำหน่าย “ยาชีววัตถุ”

ตั้งแต่ “ก้าวแรกของการผลิต” จนนำส่ง โดยไม่ต้องพึ่งพา “วัตถุดิบยา” จากภายนอก

โดยสยามไบโอฯ ผลิต “ยาชีววัตถุ” ผ่านเทคโนโลยีชั้นสูงแห่งเดียวของคนไทยและในอุษาคเนย์

“ยาชีววัตถุ” คืออะไร?
เป็นผลิตภัณฑ์ยาที่ได้จากสิ่งมีชีวิต ปัจจุบันยังผลิตจากการใช้เทคโนโลยีการตัดต่อทางพันธุกรรม เพื่อสร้างดีเอ็นเอสายผสม (recombinant DNA หรือ rDNA)
เพื่อให้ได้โมเลกุลของ DNA ที่สามารถผลิตโปรตีนที่เหมาะสมสำหรับพัฒนาเป็นยาบำบัดรักษาและป้องกันโรคต่างๆหลายกลุ่ม..ฯลฯ…(PharmCEpharmce.weebly.com)

เครือสยามไบโอฯ ประกอบด้วย ๒ บริษัทหลัก คือ

-“บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด”
วิจัย พัฒนา ผลิตยา เครื่องมือแพทย์ ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพต่างๆ โดยวิจัย-พัฒนา-ผลิต “ครบวงจร” ตั้งแต่ตัวยาสำคัญและสารออกฤทธิ์จนถึงผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป

-“บริษัท เอเพ็กซ์เซล่า จำกัด”
ทำการตลาดและการขาย ทั้งในประเทศและส่งออก รวมถึงบการพัฒนาธุรกิจสร้างเครือข่ายพันธมิตร ทั้งในและนอกประเทศ

ครับ…นี่คร่าวๆ นะ
“พ่อหลวงบนฟ้า” ทรงทำไว้ให้ เพื่อลูกๆ ทุกคนได้อยู่สุข และเพื่อบ้านเมืองไทยของทุกคน สืบไพศาลแท้จริง.

Written By
More from plew
“ควรมีคนเช่นนี้อยู่หรือ?” – เปลว สีเงิน
เปลว สีเงิน หมู่นี้ ขบวนการล้มเจ้า “โจมตีสถาบัน” หนัก ถึงขั้น “ปั้นข่าวเท็จ” เอาดื้อๆ ว่า “พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” และ...
Read More
0 replies on ““พ่อทำไว้ให้โดยลูกไม่เห็น””