คาร์เทียร์เปิดตัวโฉมใหม่ บูติคแฟล็กชิพ ณ สยามพารากอน ผสานกลิ่นอายวัฒนธรรมไทยเข้ากับเอกลักษณ์ของคาร์เทียร์อย่างกลมกลืน

คาร์เทียร์ (Cartier) แบรนด์เครื่องประดับสัญชาติฝรั่งเศสปรับโฉม บูติคสยามพารากอน นำสถาปัตยกรรมไทยร่วมสมัยผสานเข้ากันกับเอกลักษณ์ของคาร์เทียร์อย่างกลมกลืน

คาร์เทียร์และประเทศไทย มีสายสัมพันธ์อันดีสืบเนื่องกันมาอย่างยาวนาน เริ่มตั้งแต่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นช่างทองหลวงประจำราชสำนักสยามในปี ค.ศ. 1907 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ แห่งราชวงศ์จักรี ประทับตราพระราชลัญจกรประจำแผ่นดินสยาม โดยระหว่างเสด็จประพาสยุโรป พระองค์ทรงเสด็จเยือนบูติคคาร์เทียร์ ณ อาคารเลขที่ 13 ถนน rue de la Paix  บูติคแฟล็กชิพในกรุงปารีส โดยพระองค์ทรงซื้อเครื่องประดับชั้นสูง แก่พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เป็นกุศโลบายเพื่อแสดงความศิวิไลซ์และวัฒนธรรมอันทัดเทียม แสดงมิให้ชาติยุโรปมาอ้างเพื่อรุกรานเอาดินแดนสยามไปเป็นอาณานิคม

คาร์เทียร์บูติค สาขาสยามพารากอน เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 กว่า 15 ปีในการเปิดให้บริการ คาร์เทียร์บูติคสาขาสยามพารากอนจึงถือเป็นสาขาที่สำคัญต่อคาร์เทียร์มาโดยตลอด โดยการปรับโฉมครั้งสำคัญนี้เป็นหนึ่งในการร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 115 ปี ความสัมพันธ์ระหว่างคาร์เทียร์และประเทศไทย บนพื้นที่ราว 400 ตารางเมตร บูติคคาร์เทียร์แห่งนี้มีการตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมไทยซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากบ้านไทย โดยสอดแทรกเอกลักษณ์ของคาร์เทียร์ไว้อย่างแยบยลในทุกรายละเอียด นับตั้งแต่ก้าวเข้ามายังบริเวณหน้าบูติค

Façade เน้นความโปร่งด้วยกระจก หินอ่อนและลายดิ้นทองสะท้อนลายผนังของบ้านทรงไทยดั้งเดิม บริเวณรับรองส่วนกลางตกแต่งด้วยประติมากรรมแบบนูนต่ำ พร้อมลวดลายทัศนียภาพอันงดงามของวัดวาอารามในกรุงเทพมหานคร ที่มีเสือแพนเตอร์ สัญลักษณ์ของคาร์เทียร์เป็นตัวเอกในการเล่าเรื่อง เสมือนว่าเสือแพนเตอร์ได้ย่างกรายมาถึงประเทศไทยแล้ว แต่ละห้องเชื่อมต่อด้วยประตูโค้งทำจากไม้ ผนังในห้อง Prestige ตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสคที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวัด ไปจนถึงเครื่องเรือนที่บุด้วยผ้าไหมไทย ไม่ว่าจะเป็นผนังหรือโซฟา

อกจากนี้ บูติคยังประดับประดาด้วยเครื่องตกแต่งและภาพเขียนที่แสดงศิลปวัฒนธรรมไทย อาทิ แชนเดอเลียที่แลดูเหมือนหยดน้ำฝนโปรยปรายลงมา สะท้อนถึงสภาพภูมิอากาศเขตร้อนในประเทศไทยที่มีฤดูฝนยาวนานถึง เดือน แชนเดอเลียชิ้นนี้ออกแบบและสั่งทำขึ้นเป็นพิเศษเพื่อบูติคแฟล็กชิพคาร์เทียร์ ประเทศไทย ซึ่งเป็นที่แรกและที่เดียวในโลก ในส่วนของผนังบริเวณใจกลางบูติคประดับด้วยผ้าทอลายดอกราชพฤกษ์อันเป็นดอกไม้ประจำชาติของประเทศไทย

หัวใจหลักของการออกแบบตกแต่งคือสไตล์โปร่ง โมเดิร์น เรียบ หรูหรา แต่ยังคงไว้ซึ่งบรรยากาศที่เป็นมิตรและเชื้อเชิญให้แขกผู้มาเยือนรู้สึกอบอุ่นเมื่อเข้ามาเยี่ยมชม  เซซิล นาอูร์ (Cécile Naour) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร คาร์เทียร์ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย กล่าวว่า

“บูติคโฉมใหม่นี้เป็นการบรรจบกันอย่างลงตัวของวัฒนธรรมไทยและเอกลักษณ์ของคาร์เทียร์ การตกแต่งอันสว่างไสวและโอ่โถงของบูติคร่วมกับสถาปัตยกรรมแบบโค้งและงานฝีมืออันวิจิตรของช่างท้องถิ่นสอดแทรกอยู่ในทุกรายละเอียด สไตล์การตกแต่งที่โปร่งและหรูหราช่วยสร้างบรรยากาศให้บูติคแฟล็กชิพแห่งนี้มี เสน่ห์และสง่างาม ทั้งยังคงไว้ซึ่งความอบอุ่น น่าเชื้อเชิญให้ค้นหาและเยี่ยมชมกว่าเคย”

อีกหนึ่งความพิเศษของการเฉลิมฉลอง คาร์เทียร์จึงเปิดตัวนาฬิกาแทงก์ อะซีเมทรีค สยาม ลิมิเต็ด อิดิชั่น (Tank Asymétrique Siam Limited Edition) ซึ่งต่อยอดจากเรือนเวลารุ่นแทงก์ อะซีเมทรีค รุ่นที่เป็นที่หมายปองของ นักสะสมนาฬิกา ลักษณะพิเศษของนาฬิกาแทงก์ อะซีเมทรีค โดดเด่นด้วยรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าแบบอสมมาตร มีมุมเฉียงขึ้นไปทางด้านขวา 30 องศา เสมือนเหลี่ยมเพชร เลข 12 อยู่เยื้องไปทางมุมขวาบนของหน้าปัดและเลข อยู่มุมซ้ายล่าง

จึงทำให้หน้าปัดและสายของนาฬิกาแทงก์อะซีเมทรีค มีเอกลักษณ์ต่างออกไปจากเรือนเวลารุ่นอื่นๆ นาฬิกาแทงก์ อะซีเมทรีค สยาม ลิมิเต็ด อิดิชั่น เพิ่มเอกลักษณ์ท้องถิ่นด้วยตัวเรือนแพลทินัม เม็ดมะยมทับทิม หน้าปัดตัวเลขไทย ออกแบบพิเศษเฉพาะรุ่นนี้เท่านั้น ด้านหลังนาฬิกาสลักข้อความ “สยาม” และหมายเลขลำดับการผลิต นาฬิกาแทงก์ อะซีเมทรีค สยาม ลิมิเต็ด อิดิชั่น

มาพร้อมกล่องสะสมลายเสือแพนเตอร์ที่ย่างกรายอย่างสง่างามในฉากหลังวัดวาอาราม อันวิจิตรตระการตาของประเทศไทย ภายในกล่องประกอบด้วยสายหนังจระเข้สีแดงทับทิมสยามที่ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนสายได้ด้วยตนเอง ผลิตเป็นจำนวนจำกัดเพียง 55 เรือนเท่านั้น

นอกจากนี้  เนื่องในโอกาสฉลองเปิดตัวบูติคแฟล็กชิพโฉมใหม่ คาร์เทียร์ยังจัดแสดงอัญมณีคาร์เทียร์ คอลเลกชั่น (Cartier Collection) คอลเลคชั่นประวัติศาสตร์รวบรวมชิ้นงานหายากและทรงคุณค่าที่คาร์เทียร์เก็บรักษาไว้ คอลเลกชั่นอัญมณีเหล่านี้แสดงถึงขนบการสร้างสรรค์และสไตล์การออกแบบของคาร์เทียร์ที่มีมายาวนานกว่า 170 ปี คาร์เทียร์ คอลเลคชั่น มีความสำคัญกับคาร์เทียร์เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในด้านประวัติศาสตร์และวิวัฒนาการในการออกแบบเครื่องประดับในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19

ไฮไลต์ของอัญมณีคาร์เทียร์ คอลเลกชั่นที่นำมาจัดแสดงในครั้งนี้ ได้แก่ สร้อยพระศอคาร์เทียร์ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมอบให้แด่สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง (พระองค์เจ้าเสาวภาผ่องศรี) เมื่อครั้งเสด็จประพาสยุโรป รวมถึง เข็มกลัดเพชรทรงระย้าหรือ Garland Style อีกเทคนิคการออกแบบเครื่องประดับอันเป็นเอกลักษณ์ของเมซงที่ได้รับความนิยมจากราชวงศ์ทั่วโลก,

คอลเลกชั่นเครื่องประดับเพชรบนตัวเรือนแพลทินัม ที่หลุยส์ คาร์เทียร์เป็นผู้บุกเบิกนำวัสดุนี้มาใช้แทนตัวเรือนเงินเพื่อความอ่อนช้อยและขับเน้นเพชรให้โดดเด่นยิ่งขึ้น และยังมีชุดเครื่องเพชรที่แสดงถึงวิวัฒนาการของสไตล์ ลายเส้นและเทคนิคที่ส่งผ่านแต่ละช่วงยุคสมัยของเมซงอีกด้วย

บูติคแฟล็กชิพคาร์เทียร์ ตั้งอยู่ที่ชั้น ศูนย์การค้าสยามพารากอน เปิดให้บริการแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผู้ที่สนใจและชื่นชอบอัญมณีและเรือนเวลา สามารถยลโฉมอัญมณีคาร์เทียร์ คอลเลคชั่น (Cartier Collectionได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคม – 18 พฤศจิกายน 2564



Written By
More from pp
ตระการตากับรายการอาหารที่ดีที่สุด พร้อมหลากรสชาติจากทั่วทุกมุมโลก ในบุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติจาก เดอะ ไดนิ่ง รูม ณ โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ
โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ มอบประสบการณ์รับประทานอาหารแบบอร่อยเต็มอิ่มจากหนึ่งในมื้อบุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติที่ดีที่สุดในกรุงเทพมหานคร ด้วยห้องอาหารเดอะ ไดนิ่ง รูม พร้อมให้บริการอีกครั้งตลอดทุกวันสำหรับบุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติมื้อกลางวันและมื้อค่ำ มอบความตระการตาผ่านรายการอาหารที่ดีที่สุดที่นำเสนอหลากหลายรสชาติจากทั่วทุกมุมโลกราวกับได้เดินทางท่องเที่ยวไปเยือนประเทศต้นตำรับ
Read More
0 replies on “คาร์เทียร์เปิดตัวโฉมใหม่ บูติคแฟล็กชิพ ณ สยามพารากอน ผสานกลิ่นอายวัฒนธรรมไทยเข้ากับเอกลักษณ์ของคาร์เทียร์อย่างกลมกลืน”