“สวดมนต์” กับ “เอาอยู่” -ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

ลุ้นครับ…..
ลงมาเฉียดหลักพันแล้ว
ก่อนนี้ประเมินกันว่า หลังยกเลิกล็อกดาวน์ จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-๑๙ รายใหม่ น่าจะดีดขึ้นไปอยู่ที่สองหมื่นกลางๆ ต่อวัน
หรืออาจวิ่งไปไกลกว่านั้น
แต่คลายล็อกมาใกล้จะ ๑ เดือนเต็ม ผู้ติดเชื้อรายใหม่ยืนอยู่ที่หมื่นต้นๆ ต่อวัน
และมีแนวโน้มแตะหลักพันในเร็วๆ นี้
สาเหตุหลักน่าจะมาจากการระดมฉีดวัคซีน

    วันนี้คนไทยฉีดวัคซีนสะสมไปแล้วกว่า ๕๐ ล้านโดส
เป็นไปตามสมการครับ ฉีดวัคซีนมาก คนติดเชื้อน้อยลง
แล้วไงต่อ…

    มีข่าวสารจากต่างประเทศที่น่าสนใจ
Albert Bourla ซีอีโอของ Pfizer ให้สัมภาษณ์ในรายการ This Week สำนักข่าว ABC ว่า
…ผู้คนจะกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้ภายใน ๑ ปีนับจากนี้ แต่ก็ยังมีข้อควรระวังอยู่

    เเละไม่ได้หมายความว่าจะไม่ต้องฉีดวัคซีนอีก เพราะยังมีตัวแปรอื่นๆ อีกมาก
มีความเป็นไปได้ที่จะมีการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดเป็นประจำทุกปี เพื่อรองรับไวรัสกลายพันธุ์…

    ขณะที่ Stephane Bancel ซีอีโอ Moderna ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ Neue Zuercher Zeitung ว่า…การระบาดของโควิด-๑๙ อาจจะสามารถสิ้นสุดลงได้ภายใน ๑ ปีนับจากนี้

    แต่มีเงื่อนไขคือ หากยังคงมีการผลิตและฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-๑๙ อย่างต่อเนื่อง
โดยหากดูถึงอัตราการขยายตัวของอุตสาหกรรม ในด้านกำลังการผลิตวัคซีนเมื่อช่วง ๖ เดือนที่ผ่านมา จะพบว่ามีวัคซีนเพียงพอในกลางปีหน้า

    จะทำให้ทุกคนบนโลกสามารถเข้าถึงการฉีดวัคซีน เเละยังสามารถฉีดวัคซีนเข็มที่ ๓ เป็นบูสเตอร์ช็อตได้หากมีความจำเป็น

    ส่วนกลุ่มผู้ที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ก็จะได้รับภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ จากมีตัวแปรสำคัญอย่างสายพันธุ์เดลตาที่ติดต่อได้ง่าย

    ผู้ได้รับวัคซีนเเล้วอาจมีอาการเหมือนไข้หวัดใหญ่ แต่กับคนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน จะมีความเสี่ยงติดเชื้อและอาจป่วยถึงขั้นต้องเข้าโรงพยาบาลมากกว่า…
หมายความว่าเราจะต้องอยู่กับโควิดไปอีก ๑ ปี

    แต่อย่าตกใจไป
เพราะ ๑ ปีของโควิดขาลง
จากนั้นต้องฉีดวัคซีนกันทุกปี เหมือนวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ๔ สายพันธุ์

    แผนจัดหาวัคซีนของ ศบค.ตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงธันวาคม สามารถรับมือกับโควิด-๑๙ ได้แน่นอน
เดือนตุลาคม เป็นวัคซีนหลัก ๒๔ ล้านโดส และวัคซีนทางเลือก (ซิโนฟาร์ม) อีก ๖ ล้านโดส

    เดือนพฤศจิกายน จัดหาวัคซีนหลัก ๒๓ ล้านโดส และวัคซีนทางเลือก (ซิโนฟาร์ม) เพิ่มอีก ๑๒.๕ ล้านโดส
เดือนธันวาคม จัดหาวัคซีนหลัก ๒๔ ล้านโดส และวัคซีนทางเลือก (ซิโนฟาร์ม, โมเดอร์นา) อีก ๑๔.๕ ล้านโดส

    นับรวมกับการจัดหาวัคซีนต่อเนื่องตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จะทำให้มีจำนวนวัคซีนที่ใช้ในปี ๒๕๖๔ รวมทั้งหมด ๑๗๘.๒ ล้านโดส
แบ่งเป็น วัคซีนหลัก ๑๒๖.๒ ล้านโดส
วัคซีนทางเลือก ๕๒ ล้านโดส

    เป้าหมายสิ้นปีนี้ คนไทยจะได้รับวัคซีน ๖๒ ล้านคน ครอบคลุม ๙๐% ของจำนวนประชากร ๗๐ ล้านคน
ตัวเลขพวกนี้สำคัญครับ เพราะจนถึงทุกวันนี้ยังมีคนโจมตีเรื่องวัคซีนโดยใช้ความรู้สึกล้วนๆ ไม่อ้างอิงอะไรเลย

    การโจมตีเรื่องการจัดหาวัคซีน วัคซีนเซินเจิ้น แม้จะไม่มากเท่าช่วงแรกๆ แต่การบิดเบือนข้อมูลข่าวสารยังคงดำเนินไปเรื่อยๆ ทั้งจากฝ่ายการเมืองตรงข้ามรัฐบาล กลุ่มมวลชนเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล

    กระนั้นก็ตาม กรณีโควิคและวัคซีน นับวันยากที่จะนำไปใช้เป็นเงื่อนไขทางการเมืองมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะหลายสิ่งหลายอย่างได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าประเทศไทยเดินมาถูกทาง

    ที่จริงช่วงเวลานี้ การเล่นการเมืองทั้งในพรรคร่วมรัฐบาล พรรคฝ่ายค้าน ควรจะเพลาๆ ลง เพราะสถานการณ์ของประเทศไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่จะมาหยิบฉวยผลประโยชน์ และความได้เปรียบทางการเมือง

    ทั้งโควิด และน้ำท่วม คือปัญหาที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันบรรเทา

    ประเด็นน้ำท่วม แทบไม่ต่างจากโควิด มีคนบางกลุ่มมีความคิดวิปริต อยากให้คนตายเยอะๆ เพราะนำไปเป็นเหตุโจมตีรัฐบาล

    มีการเปรียบเทียบว่า น้ำท่วมปี ๒๕๕๔ ยิ่งลักษณ์ต้องรับผิดชอบ ฉะนั้นน้ำท่วมปีนี้ “ลุงตู่” ต้องรับผิดชอบด้วยการลาออกด้วย

    ตามด้วยเสียงกระแนะกระแหน “ลุงตู่” ว่า “สวดมนต์” แก้น้ำท่วมไม่ได้
จริงครับ “สวดมนต์” จะแก้น้ำท่วมได้ไง
แต่หากไปดูคำฉบับพูดเต็มจะเป็นอีกแบบ

    “…ขณะนี้มีพายุเข้ามา โดยปีที่แล้วพายุเข้ามา ๕ ลูก และนี่เพียงลูกเดียว จึงขอให้ช่วยกันสวดมนต์อย่าให้พายุเข้ามาอีกเลย พายุลูกเดียวนี่ก็พอแล้ว…”

    ว่ากันภาษานักเลงนี่แหละ
ใครมีวิธีหยุดไม่ให้พายุเข้ามาบ้าง บอกมาจะได้ลองไปทำตาม

    ครับ…สำหรับคนไทยเราก็ต้องสวดมนต์
แต่ไม่ได้หมายความว่า นายกฯ กำลังแก้ปัญหาน้ำท่วมด้วยการให้ประชาชนสวดมนต์
มันคนละประเด็นกัน

    ต่างจากยุค “ยิ่งลักษณ์” ที่ใช้วิธีบริหารจัดการน้ำด้วยการบอกกับประชาชนว่า “เอาอยู่”
แทนที่จะบอกความจริงกับประชาชน กลับกลัวเสียหน้าว่าแก้ปัญหาน้ำท่วมไม่ได้ สุดท้าย ภาคกลางจมน้ำ ๓-๔ เดือน

    ธนาคารโลกประเมินมูลค่าความเสียหายสูงถึง ๑.๔๔ ล้านล้านบาท
อีกอย่างน้ำท่วมปีนี้ไม่ถึงขั้นปี ๒๕๕๔ ครับ ฉะนั้นไม่ต้องไปสร้างความตื่นตระหนกในโซเชียล
แค่ดูปริมาณน้ำในภาพถ่ายดาวเทียมเปรียบเทียบกันก็จะพบความจริง

    ไม่มีหรอกครับกรุงเทพฯ-ปริมณฑล จะจมน้ำ ๓-๔ เดือนเหมือนสมัยยิ่งลักษณ์
มันคนละเงื่อนไขกัน อย่าสร้างความเครียดให้กับประชาชนโดยใช้เฟกนิวส์

    ที่จริงช่วงนี้มีเรื่องขำๆ เป็นสีสันการเมืองอยู่บ้างเหมือนกัน
เห็นฝ่ายค้านไล่รัฐบาล ๓ เวลาหลังอาหารแบบนี้ แต่บางคราวก็เผลอไผลในท่าทีให้รัฐบาลอยู่ยาวเหมือนกัน

    “สุทิน คลังแสง” บอกว่ายังไม่ส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความ วาระการดำรงตำแหน่งที่ต้องสิ้นสุดเมื่อครบ ๘ ปี ของ “ลุงตู่”
เหตุผลที่ยังไม่ยื่นคือ เรื่องยังไม่เกิดขึ้น ต้องรอให้ครบวาระ ๘ ปี ในเดือนสิงหาคมปีหน้าก่อน

    อีกแง่มุมหนึ่งในทางการเมือง ก็เท่ากับฝ่ายค้านเองยอมรับว่า รัฐบาลจะยังคงอยู่ต่อจนถึงสิงหาคมปีหน้า

    ครับ…ไม่มีอะไรมาก
แค่ชั้นเชิงการเมือง.

Pudaier ชุดอายไลเนอร์ 9 สีติดทนนานกันน้ำกราฟฟิตีอายไลเนอร์อายไลเนอร์สีสันสดใส

Written By
More from pp
COACH เปิดตัว “THE COACH TABBY SHOP” เพื่อเฉลิมฉลองการแสดงออกและการปลดปล่อยตัวตน
Coach เปิดตัว The Coach Tabby Shop ณ ธารา ฮอลล์ ชั้น M ไอคอนสยาม...
Read More
0 replies on ““สวดมนต์” กับ “เอาอยู่” -ผักกาดหอม”