สี่กุมารกลับเข้า “คอกม้า” – สันต์ สะตอแมน

สันต์ สะตอแมน

ชาวจีนกำลังทะลักไหลเข้าประเทศไทย

จะเกี่ยวโยงกับกรณีดารานักแสดงสาวชาวไต้หวัน..ประกาศ “ลาก่อน กรุงเทพห่วยๆ” หรือไม่ ตำรวจเท่านั้นที่จะให้คำตอบได้

ก็..อย่างที่พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ว่า.. “ กรณีของดาราสาวไต้หวันนี้จะต้องทำความจริงให้ปรากฏ หากพบว่า ตำรวจมีการเรียกรับเงินจริง ก็ต้องโทษคดีอาญา รับความผิด

แต่หากตรวจสอบแล้ว ไม่เป็นความจริงผู้แจ้งก็จะถูกตั้งข้อหา แจ้งความเท็จ เพราะสร้างความเสื่อมเสียให้กับประเทศเป็นอย่างมาก

และถึงแม้ตัวจะอยู่ที่ต่างประเทศ ตำรวจก็สามารถขอหมายจับ พร้อมประสานความร่วมมือกับสถานทูต หรือ สถานกงสุล ในการพาตัวมาดำเนินคดีได้ในภายหลัง”

ฉะนั้น พล.ต.ต.สำเริง สวนทอง รอง ผบช.น.จะมัวพูด.. “ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความเสื่อมเสีย และในฐานะผู้บังคับบัญชาได้ให้กำลังใจนายตำรวจชั้นผู้น้อยระดับปฏิบัติการ

ไม่ให้เสียขวัญและกำลังใจไปกว่านี้ เหตุการณ์นี้คงไม่สามารถตอบได้ว่า มีเจตนาต้องการลดความน่าเชื่อถือต่อการท่องเที่ยวของประเทศไทยหรือไม่” อยู่ไม่ได้

ท่านรองผบช.น.ต้องดำเนินการเรื่องนี้ให้เป็นที่ยุติด้วยหลักฐานที่ถูกต้อง โปร่งใส ตรงไป-ตรงมา จะได้พิสูจน์ให้ชาวโลกเห็นว่า..

“กรุงเทพห่วย” หรือนักแสดงสาวไต้หวันตอแหล เพื่อเจตนาลดความน่าเชื่อถือต่อการท่องเที่ยวไทยกันแน่!

เออ..แต่นี่ไม่รู้จะใช้คำพูดว่าอย่างไรดี ก็ที่คุณสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ จูงมือ 4 กุมาร (เฒ่า) กลับเข้าคอก เอ๊ยขอโทษ ค่ายพลังประชารัฐ นั่นแหละ!

ยังพอจะจำได้มิใช่รึ? คำพูด.. “คนอย่างผม ไม่มีใจบันดาลแรงนะ แต่ผมมีแรงบันดาลใจที่จะช่วยเหลือประเทศไทย สร้างอนาคตประเทศไทย” น่ะ?

ก็..คุณสมคิดไงเป็นคนกล่าว และยังพูดด้วยว่า.. “..การแข่งขันทางการเมืองเริ่มมีลักษณะคล้ายๆ การแข่งขันในสนามม้า มีม้าแข่งที่ต้องซื้อ มีคอกที่ต้องมีเจ้าของ และแต่ละคอกต้องหาเงินเพื่อมาเลี้ยงม้า

สิ่งเหล่านี้แม้เป็นความจริงที่มีมาตลอด แต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่ทุกคนรู้ว่ามันมีอยู่ มันโจ๋งครึ่มเกินไป”

ยังมีอีก..คุณสมคิดว่า.. “ไม่ต้องไปกลัวว่าจะได้กี่เสียง จำนวนเสียงไม่บอกอะไร แต่ศรัทธาของประชาชนคือหัวใจ และถ้าคุณเล่นการเมือง สร้างพรรค คิดแต่สร้างอำนาจ

แต่ถ้าไม่มีโครงสร้างทางปัญญา ไม่สะสมคนที่มีความรู้ ความสามารถ พรรคการเมืองที่ไม่มีโครงสร้างทางปัญญา มีแต่โครงสร้างทางอำนาจ สุดท้ายตัวเองก็จะไปไม่รอด..”

ครับ..ผมจึงว่าไม่รู้จะใช้คำพูดอย่างไรดี จะพูดเป็นเรื่อง “ตอแหล” ของนักเมืองก็ดูจะรุนแรงไปสำหรับคุณสมคิด เอาเป็นว่า จะสี่กุมารหรือสี่มาร ในทางการเมืองแล้ว..

ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร แม้จะแซะ-ด้อยค่า-ด่ากัน แต่พอสมประโยชน์ร่วมกันได้ คำว่า “ศรัทธาของประชาชนคือหัวใจ” ก็เป็นแค่ลมปาก..ขากถุย!

อ้อ..คุณสมคิดกับทีม 4 กุมารต้องกล้าบอกเหตุผล (จริง) ถึงการย้อนกลับเข้าคอกม้านะว่า.. “พวกผมกลัวจะไม่ได้เสียงส.ส. เพราะจำนวนเสียงมันสำคัญ..

มันบ่งบอกว่า พวกผมจะได้กลับมาเป็นรัฐมนตรี”!

อย่าแถ อย่าได้แก้ตัว หรือให้ดีก็ “ปิดปาก” หยุดพล่ามไปเลย ปล่อยให้คุณสนธิรัตน์ คุณอุตตม คิดหาเหตุผลอธิบายสมาชิกพรรคกันเอาเองเหอะ

โดยเฉพาะ “บ้านใหญ่” จ.นราธิวาส ที่พรรคสร้างอนาคตไทยเพิ่งลงไปประกาศเปิดตัว ต้องบอกเลยว่าใจเด็ด-แน่มาก..

ไม่ยอมให้ถูกลากกลับเข้าคอกม้า!!

Written By
More from pp
ฤกษ์ดี 3 มิ.ย.นี้ เปิดให้ประชาชนทดลองนั่งรถไฟฟ้าสายสีเหลืองฟรี คาดให้บริการเชิงพาณิชย์เดือน ก.ค.
ฤกษ์ดี 3 มิ.ย.นี้ เปิดให้ประชาชนทดลองนั่งรถไฟฟ้าสายสีเหลืองฟรี คาดให้บริการเชิงพาณิชย์เดือน ก.ค. เติมเต็มโครงข่ายรถไฟฟ้า กทม.-ปริมณฑลเปิดบริการรวมแล้ว 12 เส้นทาง 242 กม....
Read More
0 replies on “สี่กุมารกลับเข้า “คอกม้า” – สันต์ สะตอแมน”