เอกอัครราชทูต สหรัฐฯ ชื่นชมไทยประสบความสำเร็จในการรับมือกับโควิด-19 พร้อมสานต่อความร่วมมืออย่างใกล้ชิด

27 พ.ค.63 เวลา 10.00 น. ณ ห้องรับรอง 1 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายไมเคิล จอร์จ ดีซอมเบร (H.E. Mr. Michael George DeSombre) เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในโอกาสเข้ารับหน้าที่

รองนายกรัฐมนตรี แสดงความยินดีต่อออท.สหรัฐฯ ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ ยืนยันความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างทั้งสองประเทศ พร้อมขอบคุณออท.สหรัฐฯ ที่เขียนบทความลงในหนังสือพิมพ์และสื่อออนไลน์ ชื่นชมไทยว่าเป็นประเทศที่มั่นคงและน่าเชื่อถือในการดำเนินนโยบายควบคุม และป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ได้ประสบผลสำเร็จและเหมาะแก่การลงทุนต่อไปในอนาคต

ออท.สหรัฐฯ หวังกระชับความร่วมมือเพื่อส่งเสริมบรรยากาศการลงทุนสำหรับภาคเอกชนสหรัฐฯ และไทย โดยเห็นว่าไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพและเป็นพันธมิตรด้านเศรษฐกิจที่สำคัญ ทั้งนี้สหรัฐฯ สนับสนุนงบประมาณผ่านองค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา (United States Agency for International Development – USAID) เพื่อสนับสนุนด้านอุปกรณ์การแพทย์ในการรับมือกับโควิด-19 รวมถึงการสนับสนุนด้านวิชาการเพื่อพัฒนาทักษะและฝีมือให้แก่แรงงานไทย

โอกาสนี้ ออท. สหรัฐฯ ให้ความสนใจสอบถามถึงการขยาย พ.ร.ก. ฉุกเฉิน และการขยายเวลาห้ามเครื่องบินเข้าประเทศไทยจนถึง 30 มิ.ย. 63 โดยรองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าการขยาย พ.ร.ก. ฉุกเฉินไว้เพื่อให้รัฐบาลกลางมีอำนาจในการสั่งการ และใช้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่มีมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ อย่างไรก็ตามสถานการณ์ในไทยเริ่มคลี่คลายโดยในเดือนมิถุนายนจะมีการพิจารณาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเดือนกรกฎาคมอาจมีการผ่อนคลายมาตรการเพิ่มขึ้น

ในตอนท้ายทั้งสองฝ่ายยืนยันว่าไทยและสหรัฐฯ พร้อมทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อสานต่อความร่วมมือและสร้างความเจริญรุ่งเรืองแก่ทั้งสองประเทศต่อไป

Written By
More from pp
บนรถเมล์สายหายนะ
เรื่องจริงเรื่องนี้เกิดขึ้นที่ประเทศจีน ร่วมๆสามสิบกว่าปีมาแล้ว ………….. ในช่วงสายๆ ของวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส รถเมล์คันขนาดกลางวิ่งอยู่บนถนนชนบท มีผู้โดยสารอยู่สิบกว่าคน ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย โชเฟอร์เป็นผู้หญิง อายุน่าจะประมาณสามสิบกว่า หน้าตาแลดูสะอาดสะอ้านดี รถวิ่งไปเรื่อยๆ...
Read More
0 replies on “เอกอัครราชทูต สหรัฐฯ ชื่นชมไทยประสบความสำเร็จในการรับมือกับโควิด-19 พร้อมสานต่อความร่วมมืออย่างใกล้ชิด”