ผสมโรง
สันต์ สะตอแมน
0.44.. เท่ากับ “สี่แสนสี่หมื่นบาท”
นี่..เป็นตัวเลขรายได้หนังเรื่อง “มือปืน/โลก/พระ/จัน 2” ที่เข้าโปรแกรมฉายวันแรก (9ม.ค.) ของบ็อกส์ออฟฟิศ และถึงวันนี้-13 มกรา..
รายได้รวมอยู่ที่ 2 ล้านบาทนิดๆ!
ก็อย่าเพิ่งหมดกำลังใจไปก่อนล่ะ สำหรับ “ผู้กำกับ” คือคุณต้อม-ยุทธเลิศ สิปปภาค อยากให้รอลุ้น-รอดูด้วยความหวัง เผื่อสัปดาห์นี้กระแสหนังจะกระเตื้องขึ้นมา
เพราะการที่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ได้ออกโรง-ออกหน้า ช่วยโฆษณา-ประชาสัมพันธ์ เอาไว้เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า..
“หลังจบการอภิปราย พ.ร.บ.งบประมาณ ผมจะไปดู #มือปืนโลกพระจัน 2 หนังเรื่องล่าสุดของ ต้อม ยุทธเลิศ แน่นอน หลังดูภาคแรกไปเมื่อปี 2544 ก็กว่า 10 ปีมาแล้ว
ภาพยนตร์ของยุทธเลิศล้วนเป็นภาพยนตร์ที่ดูเผินๆ เน้นความตลก ความโรแมนติก น่ากลัว เสียดสี จิกกัด แต่ในขณะเดียวกันก็สะท้อนภาพสังคมและวัฒนธรรมไทยไว้หลายอย่าง
ผมเชื่อว่าภาพยนตร์ของยุทธเลิศเป็นที่จดจำและยังคงอยู่ในใจหลายคน ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง บุปผาราตรี สายล่อฟ้า รัก/สาม/เศร้า กุมภาพันธ์ กระสือวาเลนไทน์ ฯลฯ
ยุทธเลิศ สิปปภาค เป็นผู้กำกับภาพยนตร์แถวหน้าฝีมือดี ได้รับรางวัลมากมาย
และเป็นน้อยคนในวงการบันเทิงไทยที่กล้าออกมาบอกว่าไม่สนับสนุนการรัฐประหาร ไม่เอาเผด็จการ กล้าบอกว่าจะไม่ยอมจำนนต่อความอยุติธรรมในสังคมนี้อีกต่อไป..
ขณะนี้มีความพยายามชวนกันบอกว่าอย่าไปดูหนังเรี่องนี้ เพราะเป็นผลงานของผู้ที่กล้าออกมาพูดเรื่องการเมืองและสนับสนุนฝ่ายประชาธิปไตยอย่างตรงไปตรงมา
ในทางกลับกัน ผมเห็นว่าเรายิ่งต้องชวนกันไปดู ช่วยกันสนับสนุนผลงานของบุคคลสาธารณะและคนในแวดวงบันเทิงที่กล้าออกมาสนับสนุนประชาธิปไตยอย่างเปิดเผย
เพื่อแสดงให้เห็นว่าความกล้าหาญของการแสดงจุดยืนทางการเมือง การออกมาต่อต้านรัฐประหาร การมีความเชื่อมั่นในหลักการสิทธิมนุษยชน และความเท่าเทียมกันของมนุษย์ เป็นสิ่งที่ถูกต้อง
เป็นสิ่งน่าชื่นชม น่านับถือ มากกว่าการออกมาสนับสนุนการสืบทอดอำนาจและความอยุติธรรมในสังคม”
ก็..น่าจะทำให้ “สาวกอนาคตใหม่” รวมถึงลูกศิษย์ลูกหาของนายปิยบุตร ได้จูงมือ ฉุดลากกันไปดูหนังมือปืน-โลก-พระ/จัน2” กันโรงโป่ง!
อย่างน้อยผมก็คนหนึ่งล่ะที่จะไปดู แต่ไม่ได้ไปเพื่อสนับสนุนผลงานคนที่กล้าออกมาสนับสนุนประชาธิปไตยอะไรนั่นหรอก..
แต่ดู เพราะรักและชอบหนังไทย ไม่ว่าจะเป็นของผู้กำกับท่านไหน ก็ดูได้หมด ไม่แยก ไม่แบ่งว่าผู้กำกับท่านนั้นจะมีความคิดอ่านทางการเมืองถูกใจหรือขัดใจตัวเองหรือไม่อย่างไร?
ผมยึดหลัก ไม่เอางานศิลปะ-งานหนัง-งานละคร มาปนเปื้อนกับการเมือง..นักแสดง ดารา ผู้กำกับ จะมีความคิด-ความอ่านทางการเมืองอย่างไร ถือเป็นเรื่องส่วนบุคคล
ที่สำคัญ ผมจะไม่แบ่งฝ่าย..
ให้ “แตกแยก” ในหมู่คณะผู้กำกับครับ!
