ตรรกะ “ตลบตะแลง” ของธร

ผมไม่เห็นว่า “นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เป็นบุคคลอันตรายต่อสังคมประเทศมาก่อน

แต่ตอนนี้…..”เห็นแล้ว”!

จากคลิปในโซเชียลมีเดีย เมื่อวาน(๘ กย.๖๒)
ขณะที่ คนทั้งบ้าน-ทั้งเมือง สาละวน คนละมือ-ละไม้ ช่วยคนและสัตว์เลี้ยงให้พ้นจากภัยน้ำท่วมอีสาน
ปรากฏว่า นายธนาธรก็ไปเหมือนกัน
ไม่ได้ไปช่วยชาวบ้าน ……….
แต่ไปฉกฉวยเรื่องน้ำท่วม ปั้นเป็นประเด็นความเหลื่อมล้ำสุมฟืน-สุมไฟ-ตอกลิ่ม
ส่อเจตนาหว่านเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งความเกลียดชังลงในหัวใจชาวบ้าน ให้ผลิบานเป็นทัศนคติปฏิปักษ์
นำไปสู่การทำลายล้างซึ่งกันระหว่างภาครัฐกับประชาชนในที่สุด!

ผมไม่ได้กล่าวร้ายธนาธร……..
แต่หลักฐานจากคลิปที่ธนาธรรายล้อมด้วยคณะพรรคอนาคตใหม่และพรรคเพื่อไทย ใช้ความปรารถนาดีของสุนัขจิ้งจอก ปลุกระดมชาวบ้านที่มหาสารคาม นั้น
มันคือ “ความจริงที่ประจักษ์”!
ก็ลองฟังตามที่ผมแกะจากคำพูดธนาธรบางช่วง-บางตอนก็แล้วกัน

“…….ถ้าเรามาคิด ๙ จังหวัดที่อยู่แม่น้ำชี ให้ไปเลยจังหวัดละ ๖๐๐ ล้านบาท
๖…๙ ๕,๔๐๐ ล้าน
พ่อแม่พี่น้องอาจจะคิดว่า ๕,๔๐๐ ล้านบาทแพง เยอะมั้ย…
(เสียงชาวบ้านตะโกน)…เยอะ
๕,๔๐๐ ล้าน รถไฟฟ้าสายสีชมพู กรุงเทพฯ-แคลาย-มีนบุรี สายเดียว ๕๔,๐๐๐ ล้าน
(ชาวบ้านตบมือ)โฮ้ววววว…….
๙ จังหวัดๆ ละ ๖๐๐ ล้านสำหรับแม่น้ำชี ยังไม่ได้ ๑ ใน ๑๐ ของรถไฟฟ้าสายสีชมพูเลย

ดังนั้น พ่อแม่พี่น้องที่ใจบุญขนาดนี้ ไม่ใช่เรื่องบุญกรรม อย่าไปเชื่อเขา ว่าเป็นเรื่องบุญกรรม มันไม่ใช่
แต่มันเป็นเพราะการจัดสรรทรัพยากรที่ไม่เท่าเทียมกัน………..
จากงบประมาณ เอามาใช้เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนได้ อำนาจต้องอยู่ที่ประชาชน

แต่ปัจจุบันนี้ พ่อแม่พี่น้องประชาชนทุกท่านครับ อำนาจไม่ได้อยู่ที่เรา อำนาจไม่ได้อยู่ที่ประชาชน อำนาจอยู่ที่พวกเขา พวกที่ยึดอำนาจไปจากพวกท่าน

………พ่อแม่พี่น้องครับ ผมมาที่นี่ ผมเจ็บปวด ไม่อยากให้คำสัญญา เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้เป็นรัฐบาล…..”

เป็นไงครับ…..
อย่างนี้ปลุกระดม ตอกลิ่ม-สุมฟืน-สุมไฟมั้ย?
รัฐธรรมนูญ มาตรา ๕๐ บอกว่า “บุคคล” มีหน้าที่ ดังต่อไปนี้
“(๖)เคารพและไม่ละเมิดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น และไม่กระทำการใดที่อาจก่อให้เกิดความแตกแยกหรือเกลียดชังในสังคม”

การใช้ตรรกะต่างฐานเรื่องตัวเลขก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพูในกรุง มาเปรียบเทียบกับการแก้ปัญหาน้ำใน ๙ จังหวัดลุ่มน้ำชี ตอกลิ่ม
ด้วยเจตนาให้ชาวบ้านเกิดความรู้สึกด้านความเหลื่อมล้ำระหว่างคนกรุงกับคนต่างจังหวัด
แล้วใช้สมการเปรียบเทียบตื้นๆ เป็นเชื้อสุมไฟกระหาย ให้ชาวบ้านคุโพลงในความอยาก

โดยบอกว่า ลุ่มน้ำชี มี ๙ จังหวัด เอา ๕๔,๐๐๐ ล้านนั้น มาให้จังหวัดละ ๖๐๐ ล้าน ก็แค่ ๕,๔๐๐ ล้านเอง
ทำนองว่า เพื่อคน ๙ จังหวัด ยังถูกกว่าสร้างรถไฟฟ้าสายเดียวเพื่อคนกรุงที่เดียว ตั้ง ๑๐ เท่า

นี้เป็นการ “ก่อให้เกิดความแตกแยกหรือเกลียดชังในสังคมด้วยข้อมูลเท็จ” ขัดกับรัฐธรรมนูญ มาตรา ๕๐ ชัดเจน!
ไม่เพียงก่อให้แตกแยก-เกลียดชัง……..

สุมฟืน-สุมไฟเสร็จ นายธนาธรยังเดินตามสูตรนักปลุกระดม ลงท้ายด้วยการ ราดเบนซิน จุดไฟ………. “อำนาจต้องอยู่ที่ประชาชน แต่ทุกวันนี้ อำนาจอยู่ที่พวกเขา พวกที่ยึดอำนาจไปจากพวกท่าน”
มันยุให้ชาวบ้านลุกฮือลงถนนชัดๆ!
ไปเป็นลูกมือ-แนวร่วมให้พวกเขารบรัฐ “เอาอำนาจประชาชนคืนมา”

พูดชัดๆ คือ ธนาธรต้องการให้ไล่รัฐบาลประยุทธ์ไป เอาอำนาจประชาชนคืนมา
อำนาจประชาชนตามนัยของเขา ก็…พวกกู อนาคตใหม่ เพื่อไทย “ระบอบทักษิณ” นี่แหละ คือ “อำนาจประชาชน”

เมื่อได้อำนาจแล้ว……
พวกกูก็จะฉีกรัฐธรรมนูญที่ทำให้ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์กลับมาไม่ได้ เพราะ “กลับ..ต้องเข้าคุกก่อน” ทิ้งไป
แล้วเขียนใหม่เป็นฉบับ “ทักษิณาธรกลืนแผ่นดิน”

นี่…แบบนี้แหละ อำนาจที่อยู่ในมือประชาชน ธนาธรก็จะหายเจ็บปวด ได้เป็นรัฐบาลตามที่ตัวซี้-ตัวสั่น ชนิดเงาล้นกระโหลกซะที
มันกลอกกลิ้ง ร้อยลีลา-ล้านเล่ห์……….

ไม่ต่างกับทักษิณตอนตั้งพรรคไทยรักไทยเลย ทักษิณตีราคาชาวบ้านเป็น “คนตาบอด”
ตัวเขาคือ “เสือ” ที่คนตาบอด คือชาวบ้าน เดินเซื่องๆ มาให้เขมือบเอง แค่หลอกว่า “รวยแล้วไม่โกง” พวกหน้าโง่ ก็หลงเชื่อ!

อยากถามธนาธรว่า……
ไหนลองบอกซิ คุณมีแผนแก้ปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้ง ใน ๙ จังหวัดลุ่มน้ำชี ด้วยเงินจังหวัดละ ๖๐๐ ล้าน แบบไหน อย่างไร?

บอกหน่อยสิ…ธร การจัดสรรทรัพยากรที่เท่าเทียมกันของคุณน่ะ
อย่าถุุยเหมือนนักเลือกตั้ง นักวิชาการ นักประชาธิปไตยถั่วๆ เลย
อะไรก็ไม่ดี ต้องค้านทุกเรื่อง แต่เมื่อถาม แล้วแบบไหนล่ะดี ลองบอกซิ?
ไม่รุ..!?

ถ้ามีแผนใช้แก้น้ำท่วม-น้ำแล้งได้จริงตามที่คุณกะล่อนหลอกชาวบ้าน อย่าว่าแต่ ๖๐๐ ล้านเลย
๖๐,๐๐๐ ล้านด้วย..เอ้า ไม่ว่ารัฐบาลไหน เขาพร้อมทุ่มลงไปทั้งนั้น

คุณมันก็ดีแต่กะล่อนหลอกชาวบ้าน เอาเสือกับช้างไปสร้างตรรกะลวงตาให้ชาวบ้านคล้อยตามว่า เป็นสัตว์เหมือนกัน ต้องเลี้ยงดูเหมือนกัน

ใช่..สัตว์เหมือนกัน แล้วมันชนิดเดียวกันที่ต้องบริหารและดูแลเหมือนกันหรือเปล่าล่ะ?

เหมือนคุณตั้งพรรคอนาคตใหม่ เป้าหมายสูงสุด ก็เพื่อประชาชน
ในเมื่อเพื่อการจัดสรรทรัพยากรที่ทัดเทียมกัน แทนที่จะปล่อยกู้ ๑๑๐ ล้านให้พรรค นำไปใช้หาเสียง
ทำไมไม่เอาเงินจำนวนนั้น หารแบ่งให้ประชาชนไปเลยล่ะ
มันจะไม่ทั่วถึงประชาชนอันเป็นเป้าหมายดีกว่าหกเรี่ย-เสียดอกอยู่กับกลไกหาเสียงเลือกตั้งเฉพาะคนของพรรค จนเป็นเหตุรำไรๆ ใกล้ยุบพรรคดอกหรือ?

ฟังดูไม่เป็นตรรกะเลยใช่มั้ย…ธร?

ก็เช่นกัน……..
การเอาเรื่องรถไฟฟ้าสีชมพูไปเปรียบเพ้อเจ้อกับเรื่องน้ำใน ๙ จังหวัด มันไม่เป็นตรรกะกันเลย
และที่ผมพูด คุณกลอกกลิ้ง บิดเบือนด้วยข้อมูลเท็จ ให้ชาวบ้านเข้าใจผิดไปจากความเป็นจริง
นำไปสู่ความแตกแยก เกลียดชังรัฐบาล ส่อเจตนาปลุกปั่นให้ประชาชนแสดงความเป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐนั้น
….ไม่ได้กล่าวหา
“มันจริง” คุณบิดเบือนข้อมูล ปั้นเท็จปลุกปั่นชาวบ้านจริงๆ
เพราะโครงการรถไฟฟ้าสีชมพู ราคา ๕๔,๐๐๐ ล้าน ที่คุณบอกว่า เป็นการ “จัดสรรทรัพยากรที่ไม่เท่าเทียมกัน” นั่นน่ะ
ในข้อเท็จจริง รถไฟฟ้าสีชมพู เป็นโครงการสัมปทานให้เอกชนลงทุน ไม่ได้ใช้เงินงบประมาณของรัฐ
สัญญาก่อสร้าง ๓ ปี ๓ เดือน ระยะทาง ๓๔.๕ กม. และระยะเวลาสัมปทานเดินรถอีก ๓๐ ปี

บริษัทที่ได้สัมปทาน คือบริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอก โมโนเรล จำกัด (NBM) เป็นบริษัทร่วมค้าระหว่างบีทีเอส, ซิโน-ไทย และบริษัทผลิตไฟฟ้าราชบุรีฯ

เป็นรถไฟฟ้าแบบรางเดี่ยว ที่เรียก “โมโนเรล” มูลค่ารวม ๕๓,๔๙๐ ล้านบาท

เผื่อธรจะนำไปกะล่อนหลอกชาวบ้านที่ไหนอีก จะได้พูดด้วยข้อมูลครบ ก็บอกให้ละเอียดไปเลยว่า
ส่วนที่รัฐลงทุน ก็เฉพาะค่าจัดสรรกรรมสิทธิ์ที่ดิน ๖ พันกว่าล้าน
เอกชนลงทุนในส่วนงานโยธา ๒๑,๓๘๑ ล้านบาท ค่างานระบบรถไฟฟ้า ๒๕,๒๖๒ ล้าน
รับเงินสนับสนุนจากภาครัฐฯ ๒๒,๕๐๐ ล้านบาท และเขาลงทุนเอง ๓๐,๙๙๐ ล้านบาท

เอ้า……….
ม้วนหางสิ…ธร!

Written By
More from plew
“เพื่อไทย” ไปทางไหนกัน? – เปลว สีเงิน
เปลว สีเงิน ให้มันได้ยังงี้ซี…. ไม่งั้นเสียยี่ห้อ “มือกฎหมาย” พรรคเพื่อไทยหมด! เรื่องการมี “รัฐธรรมนูญ” ฉบับใหม่ นั้น
Read More
0 replies on “ตรรกะ “ตลบตะแลง” ของธร”